RSS

Category Archives: IDEA Me

ที่นอนเป่าลม (ใช้งานไม่คุ้ม !!!)

   อยากได้ที่นอนซักอัน  จะเอาเป็นแบบไหนดี ???

Leaking air matress cartoonขอบคุณภาพจาก (คลิก)

คำถามนี้ อาจมีขึ้นในสมอง เมื่อเรามีแขกคนสำคัญมาที่บ้าน หรือเราต้องการที่นอนเพิ่ม

แต่เอ…จะเอาแบบไหนดีล่ะ

  1.  ที่นอนแบบเตียงนอนเลย มีฟูกมาวาง นอนสบายๆ แต่ขนย้ายยาก หนัก เปลืองเนื้อที่
  2. นอนกับพื้นนั่นแหละ ใช้แต่ฟุกเบาะวางกับพื้นไปเลย จะเป็นแบบใยสังเคราะห์ หรือแบบยางพาราก็แล้วแต่ (เงินในกระเป๋า)
  3. หรือจะเป็ฯที่นอนเป่าลม หรือสูบลม ก็เข้าท่านะ  ไม่ใช้ก็เอาลมออก เก็บได้ เบา ขนย้ายสะดวก

ดูจากตัวเลือก 3 ข้อแล้ว ก็มาดูเรื่องราคากัน

  1.  ที่นอนแบบเตียง ก็ดีนะ แข็งแรง ใช้ได้นานดี ฟูกเบาะก็แล้วแต่ราคา  (แต่ค่าเตียงเฉยๆ ก็หลักสามพันขึ้นแล้วล่ะ ไม่รวมที่นอน)
  2.  ฟูกเบาะ  ก็ดี ไม่มต้องซื้อเตียง วางเสร็จก็ปูผ้าปู นอนได้เลย
  3.  แบบเป่าลมก็ดีนะ มีหลายเกรด หลายราคา หลายสเปค  ตามแต่การใช้งาน  ราคาถูกๆ ก็เหมาะกับไปแคมป์กางเต็นท์ ราคาสูงขึ้นมา
    ก็ดูทนทาน หนานุ่มดี น่าจะดี แต่ราคาก็สูงนะ มีแบบนอนคนเดียวก็ราคาสามพันห้าได้ แบบนอนสองสามคนได้ ก็หลักเกือบ 5 พันบาท

สรุป  :  ผมเลือกแบบที่ 3  คือ ซื้อที่นอนเป่าลม (สูบลม) แบบมีคุณภาพ มียี่ห้อ (ดังที่สุด น่าเชื่อถือที่สุด นั่นแหละ)

ผมหาข้อมูลจากเว็ป  พอเจอก็อ่านๆ ศึกษาข้อมูล ข้อดี ข้อเสีย (ส่วนมากเจอแต่ข้อดี)  ก็เจอที่ขายออนไลน์ใน facebook และเว็ปไซต์ครับ

ก็เลยลองสั่งมา 2 แบบคือ

  1.  เตียงนอนเป่าลมขนาด 5 ฟุต (นอน2-3 คน) ราคา 3,xxx บาท แถมหมอนเป่าลม+ผ้าห่ม (ชื่อประมาณ เงิน2เตียง ตรงๆเลย)
    รุ่นนี้มีที่สูบลมฝังในตัวเลยไม่ต้องซื้อที่สูบแยก (ประกัน 6 เดือน มัีง)
  2.  แล้วก็ โซฟานั่งเอนแบบสูบลม มีที่วางขากลมๆ (แบบสูบลม)   ซึ่งผู้ขายออนไลน์ก็ขับรถมาส่งกันเลยครับ  (ราคา 1,xxx บาท)
    แล้วก็ซื้อที่สูบลมแบบมีปลั๊กอีกอัน ราคาประมาณสามร้อยกว่า
baddd (1)

เก้าอี้เป่าลม

ปล. การรับประกันคือ ห้ามมีอะไรไปจิ้มให้รั่ว  หรือห้ามของมีคนทำให้ฉีกขาด และรั่ว  ครับโผมมมม…… ผมมีลูกชายและลูกสาวซนมากๆครับ
แต่ปัญหาที่เกิดไม่ได้เกิดจากเด็กๆของผมเลย  ถึงแม้เด็กๆจะขึ้นไปกระโดดบ้าง (ที่นอน) แต่ที่นอนพวกนี้รับ นน.ได้ถึง 250 กก.นะครับ
เด็ก 2 คน นน.ไม่ถึง 40 กก.ด้วยซ้ำ) และผมก็คอยดูแลตลอดเรื่องการใช้งาน เรพาะอยากใช้นานๆ เพราะราคามันแพงนะ….

สรุปการใช้งาน  :

  1.  สำหรับเตียงรุ่นนี้ (เงิน2แตียง)  ใช้งานได้ไม่นานก็เริ่มแอ่นกลาง นอนแล้วเริ่มปวดหลัง (แรกๆไม่) ใช้ไม่ถึง 2 อาทิตย์นะ ผมนอนกับลูกชาย

(ลูกชายเพิ่ง ป.2 นน.ไม่มาก ส่วนตัวผม นน.80 กก.)  การสูบก็ต้องสูบทุกวันก่อนนอนครับ ผมนอนแบบไม่ได้เก็บครับ เพราะเอาไปนอนจริงจัง
ผมเข้าใจนะเรื่องนี้ ว่าลมมันต้องมีออกกันบ้าง  ผมก็ไม่ซีเรียส ก่อนนอนก็สูบไม่ถึง 1 นาที ก็นอนได้ครับ

ปัญหาของที่นอนรุ่นนี้คือ  ;  ไม่นานหรอก แอ่น ยุบ ตรงกลาง  นอนแล้วจะปวดหลัง  เราก็ทนนะ เพราะเพิ่งซื้อมาไม่ถึง 2 อาทิตย์ แต่เอ…ทำไม
มันแอ่นเร็วจัง แล้วต่อไปเรานอนได้ยังงัย ตื่นมาเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว ปวดหลังแบบนี้

 

baddd (2)

เก้าอี้เป่าลม

2.  โซฟานั่งเอน แบบแยกที่วางขา(กลมๆ)  อันนี้แบบแย่มากๆครับผม  ใช้ไม่ถึงอาทิตย์ ตื่นเช้าลงมา เอ..ทำไม ตัวโซฟามันโป่งๆ ปวมๆ
แบบป่อง  นั่งไม่ได้เลย (เดี๋ยวจะมาลงรูปให้ดูกัน)  พอเจอปัญหานี้ ผมก็ถ่ายรูปส่งไปให้ผู้ขายดู เค้าก็บอกว่าจะเปลี่ยนให้ แล้วก็จะมาเปลี่ยน

  •  ผมก็เลยบอกว่า ที่นอนรุ่น(เงิน2เตียง) มันนอนนอนแล้วปวดหลังแล้วน่ะ ทำไมมันแอ่นเร็วจัง  เค้าก็บอกว่าลูกค้าคนอื่นก็เป็นครับ ผมก็บอกว่า
    แล้วแก้ปัญหายังงัย เค้าก็บอกเปลี่ยนให้ ผมก็เลยขอเปลียนมั่ง แต่ก่อนหน้านี้ผมคิดจะซื้อที่นอนเพิ่มอีก แบบ 3.5 ฟุตไว้ให้แม่ยายนอน
    ตอนแม่ยายมาเยี่ยมหลาน  (รุ่นนี้ดูดีกว่านะ ( รุ่น Pxxxxxxx)และแพงกว่าพอควร คือขนาด 3.5 ฟุตราคาก็ 3,5xx บาท ถ้า 5 ฟต ก็ราคา 4,9xx บาท)
    ผมก็บอกว่า ถ้ามาเปลี่ยนโซฟา ก็เอาที่นอนรุ่นนี้มาด้วย จะขอทดลองใช้งานดู

แล้วผู้ขายก็มา :

  •  พอมาผมก็ขอลองที่นอนรุ่นแพงสุด( รุ่น Pxxxxxxx) ขนาด 3.5 ฟุต  ตอนลองนี่ ประทับใจมากๆ ผมเลยยื่นข้อเสนอไปว่า โซฟาไม่ขอเปลี่ยนแล้ว
    ที่นอนรุ่น(เงิน2เตียง) ผมก็ไม่เปลี่ยน แต่ขอเป็นคืนของและซื้อที่นอนรุ่น 3.5 ฟุต(รุ่น Pxxxxxxx) แทนได้มั๊ย แล้วก็จะซื้อที่นอนรุ่นนี้ขนาด 5 ฟุตอีกอัน
  • พ่อค้าก็คิดแล้ว ก็บอกว่า โอเค ตกลง (เพราะโซฟาเค้าเอาไปเปลี่ยนที่โรงงานได้ ส่วนที่นอนรุ่นแอ่น(เงิน2เตียง) ก็เอาไปเคลมกับโรงงานได้ เพราะ
    ยังไม่หมดประกันทั้งคู่ (แหม่ ก็ใช้ได้ไม่ถึงอาทิตย์ สองอาทิตย์ ก้หมดสภาพแล้วนี่ ใครจะใช้งานได้ล่ะ)
  • โดยส่วนตัวผมชอบการบริการ(ขณะนั้นนะ)  มากๆ  เพราะจริงใจดี  แล้วผมก้ประทับกับที่นอนรุ่น Pxxxxxxx มากๆครับ นอนดี ไ่มแอ่น(เท่าไหร่)
  • การสูบลมก็ปกติครับ ก่อนนอนก็สูบก่อน ไม่ถึงนาทีก็นอนได้ดี จนถึงเช้าเลย  นอนไม่ปวดหลังครับ ยอมรับว่าดีมาก ประทับมากครับ รู้สึกว่าคุ้มค่า
    กับเงินที่เสียไป   2 เตียงนี่ ราคาก็เกือบหมื่นบาทนะครับ  35xx + 49xx บาท…..

ปัญหาเกิด (ใช้งานมาไม่ถึงปีนะ ใช้งานปกติ ไม่มีเด็กกระโดด ไม่มีของมีคมไปถูก เรียกว่าใช้งานนอนอย่างเดียวครับ ถนอนมาก)

รุ่น 3.5 ฟุต เกิดปัญหา (โคตรห่วย กระจอก)

 

baddd (3)

ที่นอนเป่าลม

  •  ที่นอนตัวขนาด 3.5 รุ่น Pxxxxxxx อยู่ๆก็เกิดอาการเหมือนโซฟาเลย  คือ โป่งตรงกลาง  ตื่นเช้ามาก็งงเลย เพราะก่อนหน้านี้ แม่ยายมาพัก
    ให้ท่านนอนไป 1 สัปดาห์ ก็ปกติ นอนดี  พอท่านกลับไปวันเดียว เกิดเหตุเลย
  • ผมก็ถ่ายรูป แล้วโทรหาผู้ขาย  ก็ได้คำตอบว่า สินค้าปมดประกันแล้ว  โรงงานเลิกผลิตแล้ว……จบ !!!  เอ่อ 35xx บาท โยนทิ้งได้เลย ว่างั้น
  • ผมเข้าใจนะเรื่องสินค้าหมดประกัน (ใช้งานไม่ถึงปี  ใช้อย่างถนุถนอม  รุ่น 3.5 ฟุตนี่ ผมใช้เฉพาะตอนแม่ยายมาเท่านั้น ใช้แล้วเก็บ ไม่ได้ใช้ตลอด)
    ทำไม ?   พังง่ายจัง เลย 6 เดือน  กระจอกไปมั๊ย  ของราคาสามพันกว่า  ไปซื้อเตียง หรือ ซื้อฟูกดีๆ ได้เลยนะ
    ทำไม ?   ไม่ช่วยเหลืออะไรเลย  แล้วแก้ไขอะไรไม่ได้เลย  บอกโรงงานเลิกผลิตแล้ว……อ้าว แบบนี้ก็ทิ้งเลยน่ะสิ
  • เออ…สรุปที่นอนรุ่น Pxxxxxxx 3.5 นิ้ว  ผมก็ทิ้งแม่มเลย เอาลมออกแล้วพับๆ โยนกองไว้ก่อน (พับก็ไม่ได้นะ ลมมาคาโป่งอยู่ข้างใน กระจอกสิ้นดี)
baddd (4)

ที่นอนเป่าลม

รุ่น 5 ฟุต (อันนี้ผมผิดเอง  ไม่ขอต่อว่าผู้ขาย แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรกับผู้ซื้อเลย ราคาตั้ง 49xx บาทเชียวนะ  เอาไปซื้อเตียงดีๆ+ฟูกดีๆ ได้เลย  ไม่น่าเลยเรา)

  •  รุ่น 5 ฟุต ผมผิดเอง ผมเอาบันได้ไม้แบบพาดไปโต๊ะขึ้นไปเช็ดแอร์ แล้วฐานบันไดมั่นเลื่อนไปถูกที่นอน ทำใหฉีกขาดและรั่ว รอยถือว่าใหญ๋และยาวมาก
  • ผมแก้ปัญหาโดย หาข้อมูลทางเน็ต คือต้องหาซื้อกาวและพลาสติกแปะ แต่แผลของที่นอนผมมันหญ่เกิน ผมก็ถ่ายรูปไปให้ผู้ขายดู เค้าก็บอกว่าช่วยอะไร
    ไม่ได้  หมดประกัน   กาวก็หมด  เรียกว่า ไม่ขอยุ่ง  แล้วบอกว่าที่นอนรุ่น 3.5 ที่โป่ง ผมใช้งานยังงัยกัน เห็นคราวก่อนโซฟาก็พังแบบนี้   อ้าว
    ของมันห่วยนี่หว่า   ใช้งานปกติมากๆ  มันก็พังโคตรง่าย แบบคนใช้ยังงง  แล้วมาโทษกรูได้งัยวะ
  • ทุกวันนี้  ที่นอนรุ่น Pxxxxxxx 5 ฟุต  ผมก็ DIY แปะรูรั่วเอา ก็หากาวน้ำ หาเทป หาสารพัดกาว มาแปะ แล้วก็สูบลมก่อนนอน มันก็พอใช้งานได้
    นอนตื่นมาก็ยุบพอสมควร แต่ยังดีไม่ปวดเมื่อย ไม่ปวดหลัง เพียงแต่ลมมันหายไปเร็ว  ตอนสูบก่อนนอนก็ใช้เวลาประมาณ 3 นาที แต่ปัญหาคือ
    เสียงมันจะดังนะ   บ้านติดกันแบบทาว์นเฮาส์นี่ เกรงใจชาวบ้านมากๆ  เพราะผมนอนประมาณ 22.00 น.  ก็ทนใช้ไปจนกว่าจะพัง
  • เสียเงินไปเกือบหมื่น อันนึงทิ้ง  อันนึงก็ไม่สมบูรณ์   ก็เลยมาบอกต่อครับ ว่าอย่าใช้เลย ที่นอนแบบเป่าลม (สูบลม) มันไม่ทนหรอก เสียดายเงิน

สรุป  ที่นอนแบบเป่าลม (ยี่ห้อดังสุด ดีสุด)

  •  รุ่นไม่แพงมาก  จะแอ่นตรงกลาง  นอนๆไปจะ “ปวดหลัง”
  • แต่ไม่ใช่ว่า รุ่นแพงๆ  จะไม่แอ่นนะ  รุ่น Pxxxxxxx ที่ดี ที่แพง ที่ผมใช้อยู่ ก็แอ่นกลางแล้วล่ะ แต่ไม่มาก ผมก็ใช้วิธีนอนตรงริมๆแทน
    แต่เชื่อว่าในไม่นาน มันก็คงจะแอ่นมากขึ้น  และก็ภาวนาขออย่าให้โป่งกลางเลย เพราะซ่อมบ่ได้……ถุยส์ !!!
  • ไม่ว่ารุ่นดีแค่ไหน ก็ต้อง “สูบลม” ก่อนใช้งานทุกครั้งแหละ เพราะอย่างไร ลมก็ซึมออก
  • ตอนสูบลม “เสียงดัง”  ถ้าใช้งานตอนกลางคืน แล้วบ้านติดกัน ก็เกรงใจข้างบ้านมากๆ
  • ราคาแพงกว่า คุณภาพที่ได้  คือ ไม่ทนทาน  พังง่าย(อยู่ๆก็พัง) พังแล้วจบ โยนทิ้งอย่างเดียว  ซ่อมไม่ได้ (กรณีอยู่ก็ โป่ง พอง ตรงกลาง)
    ประกันดูแลไม่เกินปี  เอ้า ถึงเกินปี ไปเปลี่ยนมาแล้ว 1 ครั้ง สมมุตินะ เดี๋ยวพอหมดประกันแล้วพังอีกล่ะ อาการโป่งมาอีกล่ะ ทิ้งอย่างเดียวครับ
    เงินตั้ง 5000 บาทนะ   เอาไปซื้อเตียง + ฟูก ดีๆ ได้เลย ไม่พังแน่นอน ใช้นาน ทนทาน แน่นอน คิดแล้วก็เจ็บและเสียดายเงินมาก…
  • กรณี รั่ว ฉีกขาด (ถ้าไม่มาก แผลไม่ใหญ่) พอซ่อมแซมได้ครับ   แต่ถ้าใหญ่กว่านั้น ก็ทิ้งเหมือนกันครับ เสียดายเงินเนอะ เอาไปซื้อเตียงดีๆได้นะ
  • ประกัน 1 ปี 2 ปี ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเดี๋ยวก็พัง  ไม่รั่ว ไม่ฉีก ก็ต้อง โป่ง   แน่นอน…
  • เอาเป็นว่า  ผมไม่แนะนำให้ท่าน ซื้อมาใช้งาน  หรือถ้าซื้อก็ซื้อแบบถูกๆ  รุ่นถูกที่สุด มาใช้งานก็แล้วกัน พอชำรุดก็จะได้ไม่เสียดายเงิน อย่าไป
    ซื้อรุ่นแพงๆมาใช้งานเลย  เสียแล้วทำอะไรไม่ได้ เหมือนโยนเงินทิ้ง  หาซื้อเตียงนอน+ฟูก หรือฟูกวางพื้นเฉยๆดีกว่าเยอะครับ จะเปลืองพื้นที่ จะ
    หาที่เก็บลำบาก แต่ผมมองย้อนกลับไป ก็ดกว่าโยนเงินทิ้งไปเฉยๆแบบไม่คุ้มค่า เสียความรู้สึกอีกต่างหาก   มีพี่ที่รู้จักเอารุ่นที่ถูกสุด แบบสีน้ำเงิน
    มาให้ผมนะ มันรั่ว ผมก็ปะไม่ได้ เพราะมันรั่วตรงกำมะหยี่  ก็เสียดายของเหมือนกัน (หาวิธีอยู่)

เข็ดจนตาย  แค้นจนตาย

กับที่นอนเป่าลม (สูบลม)  ไม่ซื้อไปตลอดชีวิต และขอมาแชร์ประสบการณ์ให้ได้ทราบกัน ไม่อยากให้เสียความรู้สึก เสียดายเงิน ไปกับที่นอนแบบนี้ครับ…

ปล. ทุกวันนี้ ผมไปหาซื้อโซฟาแบบปรับระดับได้ 3 ระดับ ราคา 3000 บาท มาใช้งานแทน พอแม่ยายมาก็ปรับเป็นที่นอนซะ (ปูฟูกบางๆ ปูผ้าปู ก็หรูนอนสบายแล้วครับ)

พอแม่ยายกลับ ก็ปรับเป็นโซฟา ใช้งานรับแขกได้  นั่งได้  แข็งแรง ทนทาน ดีครับ…. เสียดายเงินที่เสียไปกับพวกเป่าลมจริงๆ ไม่งั้นผมคงได้โซฟาดีๆ (ระดับโซฟาเบด) ที่ใช้งานได้ทนทาน

และสวยงามมาประดับบ้านไปแล้ว……เฮ้อ เสียดายจริงๆ

ปล. ผมไม่ขอลงรูปผลิตภัณฑ์นะครับ (เดี๋ยวมีปัญหา) ท่านก็ลองตรองดูกันเอาเองว่า ยี่ห้ออะไร รุ่นไหน กันนะครับ จากใจคนมีประสบการณ์ตรง

 
6 ความเห็น

Posted by บน ธันวาคม 26, 2015 นิ้ว IDEA Me

 

เริ่มต้นใหม่ ประเทศไทย

 

ไม่ต้องมองว่าจะมาจากอะไร จะก่อนหรือหลัง ประเทศไทยก็ต้องการการปฏิรูปในทุกๆด้าน

” แมวสีอะไรก็ขอให้จับหนูได้ ” ใครที่ล้าหลัง ไม่ลืมอดีต ก็จะไม่คิดเริ่มต้นใหม่และ

จะมาหากินกับคำว่า “ประชาธิปไตย” ใสซื่อและจอมปลอม กันต่อไป เริ่มใหม่กันได้แล้วหรือยัง

 

*********************************

 
ใส่ความเห็น

Posted by บน พฤษภาคม 31, 2014 นิ้ว IDEA Me

 

การเอาเปรียบผู้บริโภคของค่ายมือถือต่างๆ

Image

เจอมากับตัว ทั้งเมื่อนานมาแล้ว และล่าสุด  จะเล่าให้ฟัง ผมว่าแบบนี้ พวก สคบ. น่าจะรู้ดี เพราะคิดว่าน่จะมีการโดนกระทำกันทั่วหน้า คนไทยด้วยกันแท้ๆ อาศัยช่องว่างของกฏหมาย หากินกับเงินกินเปล่าแบบนี้ ผมจะยกตัวอย่างจากประสบการณ์จริงให้ฟังกัน

1.  โทรเกินโปรโมชั่น
เรื่องนี้ ผมโดนมาเมื่อ 10 ปี ก่อนโน้นนน  ผมซื้อโทรศัพท์มือถือค่าย moto แต่ใช้โปรค่ายไหน (จำไม่ได้แล้ว เพราะนานมาก) แต่ที่จะบอกคือ เมื่อก่อน คู่แข่งค่ายมือถือน้อยครับ  คิดเป็นนาที คือ ถ้าโทร 2 นาที 1 วินาที  บริษัท (จริงๆ แค้นมาก อยากจะเขียน ” บริสัตว์ ” )  จะคิดเงินเป็น 3 นาที  นาทีละเท่าไหร่ก็ว่าไป  ถามว่า ” เอาเปรียบมั๊ย ”  , โทรไม่ถึงคิดเต็ม  โทรเกินนิดคิดเกิน   แต่ที่ผมเจอมาคือ ผมใช้โปรโทรเดือนละ 1,000 บาท  ผมใช้มาไม่เคยมีปัญหาเคลียร์ทุกเดือน แต่มีเดือนนึงผมติดหญิง (55+) ก็โทรเยอะ แต่เราก็มีโปรอยู่แล้ว ก็โทรแบบไม่ได้คิด   สรุปว่า บิลล์ออกมา 13,000 บาทกว่าๆ  แล้วเงินเดือนตอนนั้นประมาณ 6,000 บาทเอง  แล้วแบบนี้ ใครผิด  ในเมื่อโปรโทรได้เดือนละ 1,000 บาท  ผมไม่จ่ายแม่งเลย  โทรไปด่ามัน  มันก็ส่งบิลล์ ส่งหมายศาล ส่ง จม.มาเตือนเรื่อยๆ จนบัดนี้ เงียบหายไปแล้ว ก็เกิน 10 ปีแล้ว…….ใครจะมีเงินไปจ่ายพวกมัน และทำไมมันไม่ตัดยอดแค่ 1,000 บาท ทั้งที่โปรเรามีแค่นั้น  ถามว่า ผู้รับผิด เป็นแพะ คือประชาชนที่ใช้บริการพวกมันใช่หรือไม่…

2.  sms

อันนี้ พ่อผมโดน  /  อยู่มาวันนึง พ่อผม คนแก่ที่ low technology ก็ได้รับ sms ว่าจะส่งข่าวสารมาให้ฟรี 1 อาทิตย์  ถ้าไม่สนใจให้โทรไปยกเลิกบริการ(เอง)  ที่บอกเอง ก็เพราะว่า ถ้าไม่โทรไปยกเลิก  บริษัทมันจะคิดสตางค์เป็นรายเดือน   จ๊ากกกกก  แล้วมันก็คงทำแบบนี้กับลูกค้ามันทั่วไป  , ผมถามว่า พ่อ แม่ ป้า ลุง แก่ๆ ที่ไม่เข้าใจเรื่องนี้  ไม่ได้อ่านเรื่องนี้  จะโทรไปยกเลิกได้กี่คน และจะถูกไอ้พวกบริษัทเครือข่ายมือถือเหล่านี้ ทำแบบนี้กี่ครั้งแล้ว  ละเมิดสิทธิ์แถมโขมยเงินไปใช้เฉยๆกันเลย  ,

ขอถามว่า ถ้าพวกบริษัทเหล่านี้ “บริสุทธิ์ใจ” ทำไม ไม่ให้ sms เป็นแบบ  จะส่งให้ฟรี 1 สัปดาห์ ถ้าสนใจให้โทรไปยืนยัน จึงจะส่ง sms ให้ต่อไปและคิดค่าบริการรายเดือน  ถ้าไม่โทรไปถือว่า ไม่ต้องการ sms แบบนี้สิ ถึงจะเรียกว่า บริสุทธิ์ใจ  ….ใครเคยโดน ยกมือขึ้น !!!

3.  ล่าสุด คล้ายๆข้อที่ 1 คือ ให้เกินโปร

มันคือ บริษัทค่า DTOC ซึ่งผมจะไปใช้บริการมันอีกตลอดชีวิต เพราะมันสันดานทุเรศมาก  ผมใช้ IPAD2 แล้วไปเดินที่เซียร์รังสิต  เห็นมันเปิดบู๊ทเกี่ยวกับโปร 149.- บาทต่อเดือน สำหรับเล่นเน็ต ผมก็สนใจ เลยไปเปิดเบอร์ ใส่ sim แล้วใช้งาน  ปัญหามันก็เริ่มตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา  คือ ผมต้องไปจ่ายเดือนละ 149.- บาท ทุกเดือน ที่ 7-11 บ้าง  ตามห้างบ้าง  แต่มักจะมีปัญหาตรงที่ไปจ่ายทีไร จะคิดเกินทุกครั้ง ยิ่งถ้ามีคาบเกี่ยวแบบจ่ายเกิน มันจะคิดเป็นเป็น เกือบสามร้อยบาททุกครั้ง บอกว่าจ่ายของเดือนนี้ควบเดือนหน้า แล้วพอสิ้นเดือนหน้าผมไปจ่าย มันก็คิดแบบนี้อีก คือไม่เคยจะได้จ่าย 149.- บาท ซะที พอน้ำท่วม หนีไปเมืองกาญจน์ ก็ได้ใช้ แล้วพอใช้ไม่ได้ ไปจ่ายที่ตัวเมือง จ่ายไปหกร้อยกว่าบาท ทั้งๆที่ค้างจ่าย 2 เดือน พอกลับมาแถวบางใหญ่มีเหตุจ่ายไม่ทัน ไปจ่ายมันก็คิดสี่ร้อยกว่า  ตอนนั้นโมโหแล้ว ผมกับเมียมองหน้ากันหลายครั้งว่าทำไม ไม่เคยได้จ่ายตามโปรที่ใช้ซะที  ขอปิดเบอร์  พนักงานบริษัทนี้ บอกว่า ไม่ได้ ต้องไปสาขาใหญ่เท่านนั้น  ซึ่งแต่ละที่ที่บอกว่า มันออกนอกเส้นทางที่ผมใช้ชีวิตประจำวันไกลๆทั้งนั้น  ก็เลยไม่ได้ไปกัน ได้แต่จ่ายๆๆๆ ไป แล้วใช้ก็ใช้พอประมาณ เพราะว่าที่บ้าน ที่ทำงาน มี wifi ใช้   , ก่อนครั้งที่จะเลิกคบกับไอ้ DTOC  ผมใช้งานไม่ได้เลย เพราะไม่ได้ไปจ่ายเดือนนึง แล้วพอครบเดือนไปจ่าย สรุปมันคิดเดือนที่ผมไม่ได้ใช้ (มันตัดบริการ)  แต่มันคิดเงินผม  ผมก็ไม่ว่าอะไร เพราะใจอยากจะปิดบริการมันอยู่แล้ว ก็จ่ายไป

สุดท้าย ล่าสุด เมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา บอกแฟนว่า DTOC เล่นเน็ตไม่ได้แล้ว ไปจ่ายค่าบริการที่ Lotus บางเขนกัน  พอไปที่เคาเตอร์ พนักงานบอก 1,7xx.- บาท  โอ้วแม่เจ้า ผมกับแฟนคิดว่าเต็มที่ก็ไม่เกิน 600 บาท (นี่แบบโคตรๆนะ ) ให้เค้าเช็คคร่าวๆ เค้าบอกว่า เดือนอื่นปกติ แต่เดือน กพ. ใช้ไป 6000 นาที ประมาณ 3 พันกว่าบาท แต่โปรลดให้ครึ่งนึงเหลือประมาณ 1,7xx.-  บาท  (ชั่วจริงๆ ไอ้เอ้ยบริษัทเครือข่าย DTOC)  โปรกรูมันแค่ 149.- บาท  ถ้าเล่นเกิน ก็ตัดไปสิเว้ย ทีเดิอนก่อนๆ พวกบริษัทมึงยังเคยตัดการให้บริการเลย  แต่นี้ปล่อยให้ใช้เกินไปจากโปร ที่คนเค้าตั้งใจเล่นแค่นี้ และที่เล่นจริงๆ ก็ไม่ได้เล่นอะไรนอกจาก dacebook กับเช็คเมลล์  เพราะโปรแค่นี้ มันก็ได้แค่นี้  แต่ไอ้บริษัท DTOC มันให้ลูกค้าใช้เกินโดยไม่แจ้งเตือนทั้งเมลล์ และโทรมาบอก

ผมอยากจะถามว่า ถ้าผมใช้เกินไปถึงหมื่นกว่าบาท แสนกว่าบาท แล้วมาเรียกเก็บเงิน จะมีเงินให้มั๊ย สัสจริงๆ !!!   แล้วกรูจะ หรือลูกค้าเค้าจะไปเลือกโปร เลือกสิ่งที่เหมาะสมกับเค้าทำไม ถ้าไม่ได้รับการให้บริการตามนั้น  จากจ่ายแค่เดือนละ 149.- ตามโปร  ต้องจ่าย 1,7xx บาทแทน  คิดดูว่ามันเอาเปรียบลูกค้า บริหารและบริการห่วยแตกขนาดไหน    เลยตัดสินใจไปปิดบริการมันทันที  ไปที่ฟิวเจอร์รังสิตทันที

ถึงศูนย์บริการใหญ่ของมันและ ไอ้บริษัท DTOC (จำได้มั๊ยว่าปีก่อนมันสัญญานห่วยขนาดไหน ล่มแล้วล่มอีก  แล้วจะมาขอโทษลูกค้าคือให้ใช้ฟรีช่วงนึง  แต่…….. ลูกค้าต้องโทรไปติดต่อก่อนนะ เว้ยเฮ้ย สัสอีกแล้ว)  ต่อ…

พอไปถึง เข้าไปรอคิว ก็นานเลย ทำไมไม่ทำอะไรให้ฉับไว ลูกค้าก็เยอะนะ  พอถึงคิว
พนักงาน :ทำไมถึงปิดซะล่ะ
ผม :  ผมใช้โปร 149.- เล่นเน็ตอย่างเดียว ทำไมต้องจ่ายถึง 1,7xx บาทด้วย
พนักงาน : ก็พี่ไม่โทรไปแจ้งที่ศูนย์ให้ยกเลิก
ผม : อ้าว สัสเอ้ย (คิดในใจ)   ผมใช้โปรแค่่นี้ ถ้าเกินคุณก็ตัดสัญญานไปสิ หรือแจ้งเตือนมา เมลล์มา แบบนี้ผมใช้เป็นหมื่น ผมจะทำยังงัยตอนจ่ายเงินล่ะ
พนักงงาน :  เงียบ  ……..  นี่ค่ะ เซ็นต์ตรงนี้
ผม  : ผมไม่คุยต่อ บอกปิดไปเลย บริสัตว์คุณเอาเปรียบลูกค้า อย่างจัญไร (คิดในใจตรงคำหยาบ)
ผมยังพูดเรื่องมารยาทบริสัตว์ DTOC นิดหน่อย แล้วเซ็นต์ มองหน้าเมียเสร็จ ก็จ่ายตังค์รวมเบ็ดเสร็จ มันแดกไปอีก เป็นเงิน 1,9xx บาท (เกือบสองพัน)  ดูสิครับว่ามันสันดานสัตว์หมาขนาดไหน เอาเปรียบขนาดไหน   พนักงานผมไม่ได้ด่านะ  แต่ถือว่าอยู่ในองค์กร ก็ควรมีความรับผิดชอบด้วย

นี่แหละคือ ความห่วยของบริษัทต่างๆในประเทศไทย ที่หากินง่ายๆ ตรวจสอบยาก จะเอาอย่างเดียว กับคนที่มีเงินไม่ได้มากมายอย่างเราๆ  เสียดายเงิน ที่ไม่ได้ไปใช้ประโยชน์อื่นๆ ต้องไปจ่ายให้พวกมันแบบนี้…..

โดยส่วนตัวผม  บริษัท DTOC ที่ให้บริการด้านสัญญานมือถือ ผมจะขอสาปส่ง ไม่แนะนำ และจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับแม่มอีกต่อไป  เพราะเจอมาแบบนี้  เสียความรู้สึกไปนานแสนนาน….

DTOC

**********************************************

ปล. ผมอาจจะคำพูดที่รุนแรง อารมณ์อ่านโมโห ผมไม่เสียใจ ผมตั้งใจ เพราะผมโดนมาเยอะ โมโห และอยากให้ผู้อ่านได้มีอารมณ์ร่วมกับผมไปด้วย กับการกระทำห่วยๆ ของบริษัทเหล่านี้

 
1 ความเห็น

Posted by บน เมษายน 16, 2013 นิ้ว IDEA Me

 

ป้ายกำกับ: , , , ,

สอนลูก ให้รู้จักออม ด้วยมุมมองใหม่…

สวัสดีครับ  รุ่นผม ทำได้แต่อาจจะยากแล้ว สำหรับการออม ตอนนี้คงทำได้คือ เริ่มต้นใหม่ อดทน
ขยัน ใช้หนี้ให้หมด 55+ ดราม่ามากๆ  เมื่อก่อน  ผมได้ดูรายการเศรษฐีพันล้าน แล้วได้ฟังอาจารย์
ท่านนึง พูดขึ้นมาว่า เงินออม ที่เราเก็บกัน เก็บแบบไหน  แต่ที่โรงเรียนอนุบาลนึง เค้าสอนเด็กแบบนี้

CefiroDIY4U-01

ดูภาพ แล้วอ่าน ผมคงไม่พูดอะไรมากครับ  บางอย่าง คลิกเดียว เราเข้าใจเลย ว่าเราพลาดอะไรไปบ้างในชีวิต แนวคิด ผมจะไปสอนลูกผมให้คิดอีกแบบ ในแบบที่ผมไม่เคยคิด  พอเพียง แล้ว จะเพียงพอ ออมเงินให้เป็นกันนะครับ สอนเด็กๆกันนะครับ

 
ใส่ความเห็น

Posted by บน มกราคม 29, 2013 นิ้ว IDEA Me

 

วิธีดู อ่านใจ วิเคราะห์ คน

good

ลองทำดูนะครับ แล้วคุณ จะรู้จักคนๆนั้น มากกว่าเดิม….

…แต่อย่าให้มากเกินไป ให้พอดี มีเทคนิค ไม่มากเกินไป นะครับ ไม่งั้นอาจมีผลเสียมากกว่าผลดี

 
ใส่ความเห็น

Posted by บน มกราคม 24, 2013 นิ้ว IDEA Me

 

ป้ายกำกับ: , ,

หยุดสร้างภาพเถอะครับ ผมขอร้อง !!!

สวัสดีครับ

หายหน้าหายโพสกันไปนานเลยครับ สำหรับกระผม เนื่องจากได้รับหน้าที่ใหม่ (ซิงๆ) คือให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในที่ที่สำคัญของหน่วยงาน แต่ต้องสละเวลาส่วนตัว เรียกว่า เวลาหายไป ครอบครัวห่างกันเป็นพักๆ  ค่าน้ำมันเพิ่มขึ้น (สึกหรอด้วย) และความเหนื่อยล้า มากขึ้นครับ  แต่ก็ต้องทำครับ … เพราะคนที่มีหน้าที่ ถ้าไม่ทำหน้าที่ ก็ไม่มีศักดิ์ศรีครับ  แต่ผมก็ไม่ได้รับน้ำใจ ความเมตตา และ ความกรุณา เช่นกัน แล้วบังเอิญ ไปเจอบทความดีๆ โดนๆ ซึ่งบทความลักษณะนี้ ผมก็เขียนลง Facebook ประจำครับ เชิญรับชมได้แล้วครับ

BadBoss

 

ขอขอบคุณ ข้อความ นำความคิด จาก · ศูนย์เผยแพร่ธรรมะ”พ่อแม่ครูอาจารย์ (facebook) ด้วยนะครับ

ท่านอ่านแล้ว รู้สึกอย่างไร  ส่วนมากผมจะพูดบ่อยๆ ในเทศการกินเจ ว่า กินเจ แล้วไม่ได้เป็นคนดีนะครับ หลายๆคน กินเจ แต่นินทา พูดคำหยาบ คิดแต่เรื่องชั่วๆ ก็เยอะแยะ แต่กินอาหารเจ ผมถือว่า คนแบบนี้ กินผักอย่างเดียว แต่อ้างกินเจ จะได้ดูดี กินอาหารเจ แต่สร้างสรรค์กันซะ ทั้งภาพและรสชาด เหมือนไม่ได้กินเจ คิอ คนกินก็รู้สึกเหมือนกินเนื้อนั่นแหละ หลงอร่อยกันไป ใจมันไม่ได้มีศีลในขณะกิน  แบบนี้ เสียตังค์ก็แพงกว่า แถมยังไม่ได้บุญ เป็นบาปเพราะไปหลอกคนอื่นอีกว่า เป็นคนดีเพราะฉํนกินเจ   ใครจะกินเจ ผมขอให้ครบคือ ” ถือศีล กินเจ ” ปฏิบัติไปด้วย ละงานไปเลย แบบนี้สิครับ  ยกตัวอย่าง อย่างผมน่ะ ปีนึง ผมไม่กินเนื้อสัตว์ กินเจน่ะ มากกว่าวันที่เค้ากินกันซะอีก ผมเลยไม่เข้าเจครับ  เอาล่ะ นอกเรื่องเพราะกินเจไปมาก เพราะเนื้อหาก็ใกล้เคียงกับ ภาพคำ ที่ผมแสดงให้ดูครับ

คนบางคน คุยกันเรื่องธรรมะ คุยกันเรื่องการปฏิบัติธรรม หายใจเข้ายังงัย หายใจออกยังงัย  (โถ่ ถัง) คนที่ไม่รู้นิสัยก็จะเข้าใจว่า ธรรมะจังเลย เป็นคนดีแน่เลย  ส่วนมากคนทั่วไปก็เป็นแบบนี้แหละครับ เที่ยวสอนให้คนอื่นทำดี แต่กลัวคนไม่เชื่อ เลยต้องแสร้งทำดี (เค้าคิดว่าเค้าทำดี แต่เค้าไม่เคยมองตนเองเลย มองแต่คนอื่น ส่องกระจก กูดี กูเก่ง กูถูก อยู่คนเดียว) บางทีไปบวชตามประเพณี ตามเทศกาล หลายครั้งในรอบหลายปี  บางท่านผมเห็นบวชมันทุกรอบที่มีเรื่องอุปสมบทหมู่ ถ้ารวมกับบวชเรียนของลูกผู้ชาย ก็คงจะเยอะ แต่นั่นไม่ได้หมาย หรือแสดงว่า คนๆนั้น จะเป้นคนดี ได้ แต่เปลือกนอกนั้น อาจจะใช่

สมมุติ คนที่บวชแบบที่ผมว่า  และ ชอบคุยเรื่องธรรมะ และการปฏิบัติธรรม  แต่…

–  ไม่เคยแบ่งปัน ขี้เหนียว ทั้งที่ตนมีเยอะ เหลือมากกว่าคนอื่นๆมากมาย  หากจะแบ่งปันก็จะนำของที่เหลือๆ ไม่ใช้แล้ว ไม่กินแล้ว มาให้
–  งานการไม่ชอบทำ  ชอบอ้างว่าไม่มีงาน ทั้งที่งานน่ะมีให้ทำ แต่อ้าง เพราะว่า ดันทัศนะคติไม่ตรงกับบอสใหญ่กว่า เลยไม่ทำซะงั้น
–  ตำแหน่งได้กูเอา กูแย่ง กูวิ่ง แต่พอถึงปีโยกย้าย ไม่ได้ โวยวายลั่นห้อง จิตตกเป็นอาทิตย์ (ทีตัวเองตอนมาแย่งเค้า ไม่ด่าตัวเอง)
–  ประโยชน์กูเอา เสียประโยชน์กูไม่เอา อ้างติดโน่นนี่นั่น
–  ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนแล้วไม่รับผิดชอบ  และสิ่งที่ทำ ทางโลกสามารถแจ้งตำรวจจับ ปรับ ค่าเสียหายได้ด้วยนะครับ
–  เงินรวมขอใช้ ขอกินด้วย เต็มที่ แต่เงินส่วนตัว กว่าจะหยดออกมา น้ำตาจะไหล ไอ้ที่หยดน่ะ น้ำเกลือซะแล้ว…
–  ปากมอม นิสัยปากไม่ดี พูดจาไม่ให้เกียรติคนอื่นๆ  ทำให้คนเสียหน้าเพราะคำพูดที่ออกจากปากก่อนสมองจะคิด(สันดานมันคิดไปแล้ว หลุดไปแล้ว)
–  พูดจาลามก  ชอบพูดเรื่องทะลึ่ง แม้กระทั่งมีผู้หญิงอยู่ด้วย แบบนี้คือ ไม่มีกาละเทศะ ทั้งที่อายุก็มากแล้ว
–  ตำหนิผู้ที่อ่อนกว่าในหน้าที่การงาน ต่อหน้าผู้คน ทำให้อับอาย แบบนี้ใช้ได้หรือไม่ในตำแหน่งหัวหน้า
–  ส่งลูกน้อง ไปทำงาน โดยที่ลูกน้องเดือดร้อนจากงานที่ได้รับมอบหมาย ในทุกๆด้าน ครอบครัวเค้าเดือดร้อน แต่ไม่เคยถามไถ่ และสนใจจะแก้ปัญหา มีแต่สั่งอย่างเดียว ไปตายห่าช่างมัน ลูกเมียลูกน้องจะเดือดร้อน ช่างมัน !!!
– ฯลฯ

นี่ผมยกตัวอย่าง จากประสบการณ์จริงให้เห็นกันเลยนะครับ ข้อมูลจากประสบการณ์การทำงานกว่ายี่สิบปี

* แต่ยังงัยทราบมั๊ยครับ  คนเหล่านี้แหละ ที่มาพูดเรื่อง ธรรมะ เรื่องวิปัสสนา กรรมฐาน การนั่งสมาธิ ทั้งๆที่ ทาน (การให้) ยังทำกันไม่เป็นเลย  ฉะนั้น ผมจะไม่มองคนแค่ภายนอก ว่าพูดเรื่องธรรม แล้วเป็นคนดี ผมขอดูการกระทำมากกว่าครับ ดูจากลูกน้อง เพื่อนสนิท คนรอบข้าง ลูกน้องเก่า ก็ทราบแล้วว่าคนเช่นนี้ เป็นคนเช่นไร ยิ่งถ้าเราได้สัมผัส ยิ่งดีครับ  เพราะฉะนั้น อย่าหลงรูป หลงแต่เปลือกนะครับ  แล้วจะเสียใจภายหลัง  เพราะคนเหล่านี้ ชอบมาบอกธรรม ทำบุญ (ซองต่างๆ)  เราก็ทำด้วยความเต็มใจนั่นแหละ เราก็ได้บุญ แต่ผมว่า มันไม่ครบถ้วนน่ะ  เหมือนฝากโจรปล้นฆ่าไปตักบาตรทำบุญให้หน่อยน่ะครับ

สรุปว่า  อย่าคิดว่าคนดี เพราะเปลือกนอก ชอบอ้างธรรม ดูการกระทำทั้งต่อหน้าและลับหลัง และอดีต ปัจจุบัน นั้นแน่นอนที่สุดครับ แล้วก็ต้องแยกให้ออกว่า ที่เราทำบุญอะไรก็แล้วแต่ เราหลงว่าใช่ ไปหรือเปล่า เราอ้างกับคนอื่นว่าใช่ไปหรือเปล่า ถ้าแบบนนั้น เราก็ “หลอกตัวเอง” และผู้อื่นก็มองเราออกครับ ว่าเรา ” มีแต่เปลือก ”

^^

 
ใส่ความเห็น

Posted by บน ธันวาคม 18, 2012 นิ้ว IDEA Me

 

ป้ายกำกับ: , , , , ,

เจ้านายที่ลูกน้องจะรัก

เจ้านายที่ลูกน้องจะรัก  และ เจ้านายที่ลูกน้องไม่ปลื้ม

ผมไม่มีอะไรจะพูดได้ดีกว่า กลอนบทนี้แล้วล่ะครับ การเป็นเจ้านายที่ดี ลูกน้องจะไม่ลืมสิ่งดีๆที่คุณได้ทำไว้ แต่ถ้าตรงกันข้าม
ต่อไป เมื่อลงจากอำนาจ ลูกน้องก็จะไม่เคารพนับถือคุณ จดจำแต่สิ่งที่ไม่ดีในตัวคุณ ตลอดไปจนวันตาย  ผมบอกได้เลยว่า
การแก้เผ็ดเจ้านาย ที่ดีที่สุด คือ ทำงานของเราให้ดีที่สุด แต่เราไม่เคารพนับถือเจ้านาย งานคืองาน …… เป็นเจ้านาย หรือหัวหน้า ที่ลูกน้องไม่เคารพ มันน่าเจ็บปวดนะ

ขอขอบคุณที่มานะครับ
จาก http://poem.mthai.com/view/7992 ณ.นิรนาม

*****************************************************************************************************

แบบนี้คงไม่มีใครอยากจะได้หรอกนะ ทำตัวไม่ได้เป็นแบบอย่างซะเลย…..

แถมอีกนิด  

***********************************************************************************************************

กฏของการเป็นลูกน้อง มี 2 ข้อคือ

1.  เจ้านายถูกเสมอ

2.  ดูข้อ 1

ลูกน้อง ทำอะไรก็ผิดหมด ( ถ้าเจอเจ้านายแย่ๆ ก็เป็นแบบนี้แหละ )
เมื่อฉันยังไม่เริ่มงาน….ฉันคือคนเกียจคร้าน
เมื่อนายยังไม่เริ่มงาน….เขามีธุระ
เมื่องานของฉันต้องใช้เวลา….ฉันกลายเป็นคนเฉื่อยช้า
เมื่อเจ้านายทำงานช้า….เขาเป็นผู้ละเอียดรอบคอบ
เมื่อฉันทำงานที่ไม่ได้รับคำสั่ง….ฉันก้าวก่ายเกินหน้าที่
เมื่อเจ้านายทำบ้าง….มันกลายเป็นความคิดริเริ่ม
เมื่อฉันยืนหยัดคัดค้าน…ฉันกลายเป็น**งั่ง
เมื่อเจ้านายเถียง….เขากำลังเป็นผู้เข้มแข็ง
เมื่อฉันไม่ระวังมารยาท…ฉันคือคนหยาบคาย
เมื่อเจ้านายไร้มารยาท….มันคือบุคลิกของเขา
เมื่อฉันเอาใจใส่ผู้ใหญ่….ฉันกลายเป็นตลกบริโภค
เมื่อเจ้านายเลียผู้ใหญ่….นั่นคือการมีมนุษยสัมพันธ์
เมื่อฉันทำงานก้าวหน้า….มักถูกเตือนว่าล้ำเส้น
เมื่อเจ้านายทำงานเอาหน้า….ถือว่าเป็นความพากเพียร
เมื่อฉันทำงานพลาด….ฉันคือคนสะเพร่า
เมื่อเจ้านายทำผิด….เขาถือเป็นประสบการณ์
เมื่อฉันลืมทำบางสิ่ง….ฉันเป็นผู้ละทิ้งหน้าที่
เมื่อเจ้านายเผลอเรอ….ต้องทำใจว่าเขามีงานล้นมือ!!!!!

*******************************************************************

 
ใส่ความเห็น

Posted by บน พฤศจิกายน 4, 2012 นิ้ว IDEA Me

 

ป้ายกำกับ: , ,

รูปภาพ

หัวโขน อยากใส่กันมากนักหรือ ?

คนเราเกิดมามีแต่ตัว ตายไปก็เอาอะไรไปด้วยไม่ได้ นอดจากคงเหลือตวามดี และความเลว ไว้ให้คนจดจำแล้วเท่านั้น. แต่หลายคน หลงคิด ติดหัวโขน คิดว่ามันจะติดตัว ติดหัวตน แม้กระทั่งวันตาย สุดท้าย วเมื่อวันนั้นมาถึง กลับไม่มีใครสนใจ และอยากจดจำ โดดเดี่ยวจนวาระสุดท้ายขิงชีวิต ผมเห็นมาเยอะ. มีใส่ ก็ต้องใช้ให้เป็น พระเดช พระคุณ
ใช้ให้เป็น อย่าหลงตน ลืมตัว สุดท้ายจะไม่เหลือสิ่งดีๆให้จดจำ. ถอดหัวโขนเมื่อไหร่ ก็เดินชนไหล่ได้ทันที

 
ใส่ความเห็น

Posted by บน ตุลาคม 31, 2012 นิ้ว IDEA Me

 
รูปภาพ

หัวโขน ใส่ให้เป็น ถอดให้ได้

20121029-184705.jpg

คนเราเกิดมา ก็มาตัวเปล่า ตอนตาย ถึงมีล้นฟ้า ก็เอาอะไรไปไม่ได้เลย นอกจาก ความดี หรือ ความเลว ที่กระทำไว้เมื่อครั้งมีชีวิตอยู่ หัวโขนที่ได้มา วันนึงก็ต้องถอด ตอนใส่ ถ้าทำเค้าไว้มาก ตอนถอด จะไม่เหลืออะไรเลย มิตรสลาย พี่น้อง. ลูกน้อง. แม้วันตาย ก็จะไม่มีใครอยากไปงานศพ. หากแต่เมื่อสวมหัวโขน แล้วรู้จักใช้พระเดช พระคุณ พร้อมทั้ง อิทธิบาท 4 ( เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา) แม้ตายไป ก็เป็นที่จดจำ ในสิ่งที่ดี มิรู้ลืม. ท่านอยากเป็นแบบไหน ก็เลือกเอาเองครับ

 
ใส่ความเห็น

Posted by บน ตุลาคม 29, 2012 นิ้ว IDEA Me

 

คิดนอกกรอบ

สวัสดีครับ

ก่อนอื่น ผมขอขอบพระคุณ อ.วุฒิทัย การสมใจ (อ.ไก่) ก่อนนะครับ สิ่งที่ผมนำมาเขียนนี้ ผมได้รับความรู้จากท่านอาจารย์ จากการที่ได้ร่วมงานกับท่านสม่ำเสมอครับ  เป็นประโยชน์กับผมในทุกเรื่องจริงๆ สามารถนำมาปรับใช้ได้ครับ

ก่อนอื่น ผมอยากให้คุณเลือกไพ่ด้านล่างไว้ในใจก่อนครับ เลือก 1 ใบ จำไว้ในใจ (อ่านจบจะเฉลยครับ)

” คิด นอก กรอบ “ คืออะไร ในความคิดของท่าน

ผมว่า คนส่วนมาก ติดอยู่ในกรอบ เพราะเราอยู่ในกฏ ระเบียบ ข้อบังคับ ฯลฯ มากกมายก่ายกอง พอจะลองคิดอะไรแปลก ๆ ก็โดนต่อตำหนิ  ต่อว่า  ทำให้ไม่กล้าที่จะคิด ไม่กล้าที่จะไม่เหมือนคนอื่นๆ บางทีการแปลกกว่าคนอื่น ก็ดีไม่ใช่หรือ ?

การคิดนอกกรอบ  สามารถสร้างสรรค์ สิ่งใหม่ๆ ที่มีคุณประโยชน์ได้มากมายนะครับ  เช่น ทำให้เร็วขึ้น ประหยัดขึ้น ใหม่ขึ้น ดีขึ้น  สะดวกขึ้น  แปลกใหม่ขึ้น  แต่ว่า ถ้าบ้าบิ่นเกินไป ล้ำเกินไป คิดได้ครับ แต่ก็อาจจะยังไม่ใช่สำเร็จตอนนี้

ทุกวันนี้ เราติด กฏ ระเบียบ ในทุกๆที่ เช่น ที่ทำงานของเรา  ทำให้งานหรือการทำงาน ก็จะออกมาแบบเดิมๆ ซ้ำๆ อาจจะได้ความชำนาญ แต่ไม่แปลกใหม่ ไม่เร้าใจ หรือไม่มีการพัฒนาอีกต่อไป  ลองหัดให้ลูกน้อง หรือ ผู้ร่วมงาน คิดนอกกรอบกับงานที่ทำดูบ้างสิครับ แล้วท่านๆ จะได้อะไรสนุกๆ แปลกใหม่ เกิดขึ้นแน่นอนครับ

วิธี คิด นอก กรอบ

1.  ระดมสมอง สมมุติ เรามีงานอยู่ชิ้นนึง เดิมๆ ไม่เคยเปลี่ยน  ลองให้ทุกๆคนช่วยกันคิดวิธีการปฏิบัติแบบใหม่ ให้งานทำได้เร็วขึ้น ดีขึ้น สะดวกขึ้น แปลกใหม่ขึ้น…ดูซิ

2.  เอากรอบทิ้งให้หมด  ตอนคิด ให้ตัดกฏ ระเบียบ ข้อห้าม ทุกๆอย่าง ออกไปให้หมด โยนทิ้งให้หมด อย่านำมาเป็นตัวปิดกั้นความคิด (ไม่งั้นจะมีกรอบมาปิดกั้น)

3.  หาจุดรวมความคิด  แล้วมาพรีเซ็นต์กัน  คิดหลายๆคนยิ่งดี จะได้มีหลายๆทางเลือก  แล้วจับโน่น นี่ นั่น มาผสมกันให้ลงตัวดูเรื่องความเป็นไปได้ ไม่ใช่เพ้อฝันเกินไป ต้องมีที่มา ที่ไป มีเหตุผล มีหลักเกณฑ์  (ยุคสมัย มีส่วนกับความคิดสร้างสรรค์นะครับ  เพราะบางสิ่งอาจทำเป็นโมเดลของอนาคตได้ ถ้าเทคโนโลยีในสมัยนี้ยังไปไม่ถึง แต่สมองเราไปถึงแล้ว)

4.  นำกฏระเบียบมาเทียบ  เมื่อคิดได้แล้ว มาดู  กฏ ระเบียบ ข้อห้าม ว่าสิ่งที่คิดนี้ ติดขัดกับ กฏ ระเบียบ ข้อห้าม ตรงไหนบ้าง แก้ได้มั๊ย (กฏถูกเขียนขึ้น ก็สามารถแก้ไข ปรับปรุงได้ครับ ถ้าอยากให้มีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น) แต่ถ้าความคิดนอกกรอบที่ได้มา ทำให้เกิดการเสียหายมากกว่าได้ ก็หาวิธีใหม่ครับ

5.  เราก็จะได้ สิ่งใหม่ นวตกรรมใหม่ๆ วิธีการใหม่ เกิดขึ้นครับ  สิ่งที่ว่ามานี้ ให้คิดนอกกรอบนี้ เป็นได้ในทุกๆเรื่องนะครับ
เช่น วิธีการทำงาน  ผลิตภัณฑ์  กฏเกณฑ์การปฏิบัติต่างๆ  อะไรก็ได้ ที่อยากจะพัฒนา ให้มองผลสำเร็จเป็นหลักครับ มองภาพรวม มองเป้าหมาย เป็นหลัก  เท่านี้เอง

แค่ เปิดใจ ยอมรับฟัง กล้าหาญ และ พร้อมที่จะให้เกิดการเปลี่ยนแปลง  เราก็จะได้สิ่งดีๆ จากการคิดนอกกรอบนะครับ
ควรหัดให้ น้องๆ ลูกน้อง คนในปกครอง ใ้ช้ความคิดบ้างนะครับ ไม่ใช่คอยรอให้คุณสั่งซ้ายหัน ขวาหัน อย่างเดียว แบบนี้
การพัฒนาคงจะไม่มี น่าเสียดายครับ….ศักยภาพซ่อนอยู่ในตัวคน เยอะแยะมากมาย ต้องให้โอกาสด้วยครับ

/

/

/

/

/

/

/

/

/

/

/

/

/

/

/

เฉลย ไพ่ที่คุณเลือก ไม่อยู่ในภาพนี้ ใช่หรือไม่ ^^  (เอ้า ขึ้นไปดูอีกรอบ แล้วเลือกใหม่ ลงมาดูใหม่ จะไม่มีไพ่ที่คุณเลือกครับ )

http://www.kent.ac.uk/careers/sk/lateral.htm

 
ใส่ความเห็น

Posted by บน ตุลาคม 9, 2012 นิ้ว IDEA Me, Mine and Me

 

ป้ายกำกับ: , , , , ,